วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นวัตกรรมโทรศัพท์มือถือ i-phone4

นวัตกรรมโทรศัทพ์มือถือ i-phone 4




Apple นั้นนับได้ว่าเป็นบริษัทที่ทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ในวงการไอทีหรือไม่ต่างให้ ความสนใจกันอย่างล้นหลาม ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งนั้นอันเนื่องมาจากภาพลักษณ์ของตัวบริษัทตลอดจน การออกแบบสินค้าที่มีความเรียบง่าย หรูหราสะดุดตา และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า Apple เองก็เป็นบริษัทที่นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้กับสินค้าของตนมาโดยตลอด และในการเปิดตัว iPhone 4 ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่บางทีสุดในโลกนั้นทาง Apple ได้นำนวัตกรรมหน้าจอแบบใหม่ที่ทางบริษัทเรียกว่า Retina Display มาใช้กับ iPhone 4 ของตนด้วย
แต่ Retina Display คืออะไร และมันจะมีระโยชน์ต่อ iPhone เวอร์ชั่นใหม่นี้อย่างไร? ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ Retina Display คือจอ LCD ที่ทำการอัดความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลเข้าไป โดยจะสังเกตได้ว่าหน้าจอของ iPhone 4 นั้นมีขนาดเท่ากันกับ iPhones 3GS คือ 3.5 นิ้ว (วัดตามแนวขวาง) แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือความละเอียดหน้าจอของตัว iPhone 4 นั้นจะมีความละเอียดสูงกว่าคือ 960×640 พิกเซล ซึ่งสามารถคิดค่าความหนาแน่นของเม็ดพิเซลได้เป็น 326 พิกเซลต่อพื้นทีหนึ่งตารางนิ้ว (pixels per inch หรือ ppi)
ในทางกลับกันเมื่อหันมาดูหน้าจอของ iPhone 3GS ทีมีขนาดเท่ากันนั้นจะพบว่าตัวจอภาพมีความละเอียดเพียง 480×320 และมีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลเพียง 163ppi เท่านั้น ก็คงจะจินตนาการกันได้ไม่ยากว่าหน้าจอแบบใหม่นี้จะดีกว่าแบบเก่าเพียงใด
ถ้าใครได้ฟัง Steve Jobs ขึ้นกล่าวคุณสมบัติของหน้าจอ Retina Display เมื่อคืนแล้วก็จะพบว่าซีอีโอคนดังได้กล่าวว่าจะมีอยู่จุดจุดหนึ่งที่ตาของคน เรานั้นจะไม่สามารถมองเห็นจุดพิกเซลเป็นเม็ดๆ ได้อีกต่อไป ซึ่งเจ้า เลขมหัศจรรย์ตังดังกล่าวนั้นจะอยู่ที่ราว 300ppi และเมื่อมาพิจารณาความหนาแน่นของพิกเซลบนหน้าจอของ iPhone 4 ที่อยู่ที่ 326ppi แล้วก็จะเห็นว่าภาพทีได้ออกมานั้นน่าจะดูเรียบ คมชัด และไม่มีขอบหยักน่าเกลียดของเม็ดพิกเซลให้เห็น
นอกจากค่าความหนาแน่นของพิกเซลและความละเอียดทีเพิ่มขึ้นแล้ว หน้าจอ Retina Display ของ iPhone 4 ยังได้รับการพัฒนาอัตราส่วนความคมชัด (Contrast Ratio) ให้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่าด้วยกันเมื่อเทียบกับจอของ iPhone รุ่นก่อนหน้าโดยนอกจากจอภาพที่ใช้จะเป็นแบบ LED backlit แล้ว ทาง Apple ยังนำเทคโนโลยี In-Plane Switching (IPS) ที่ใช้ในจอ iMac ทั้งหลายมาใช้กับจอ Retina Display นี้ด้วย ผลที่ได้คือมุมที่สามารถมองภาพได้อย่างคมชัดนั้นจะเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนสีสันที่จะสวยงามสมจริงมากขึ้นด้วย
และนี่คือส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทาง Apple ได้มอบให้กับผู้ใช้งานครับ
ที่มา: PCWorld
สรุปคือจากภาพด้านบนแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ไอโฟน4 จะมีความคมมากว่า 3จีเอส


Apple iPhone 4 ( แอปเปิ้ล iPhone 4 )



ลักษณะเด่นประจำรุ่น

รายละเอียดตัวเครื่องเบื้องต้น

·  ระบบสัญญาณ Dual Mode (WCDMA/GSM)
- WCDMA/HSDPA Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)
- GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)
- ใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM
·  ขนาด 115.2x58.6x9.3 มิลลิเมตร
·  น้ำหนัก 137 กรัม
·  ชนิดจอแสดงผลแบบ Retina Display Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด
640x960 Pixels (326 dpi : กว้าง 3.5 นิ้ว)
- มีความละเอียดคมชัดของการแสดงผลมากขึ้นเป็น 4 เท่าของ iPhone 3GS
- ความละเอียดระดับ 326 dpi หรือที่เรียกว่า Retina Display ช่วยให้สบายตามากกว่า
- แอปพลิเคชั่นเดิมสามารถนำมาใช้งานได้ทันที และจะมีการปรับความละเอียดคมชัดให้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ
- มีค่า Contrast Ratio ที่ 800:1
- มีเทคโนโลยีจอภาพแบบ IPS เช่นเดียวกันกับเครื่อง iPad
- เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน (3-Axis Gyro Sensor)
- ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)
- หน้าจอสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ (Scratch-Resistant Display)
- ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
·  ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion
·  ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 300 ชั่วโมง
·  ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 14 ชั่วโมง (GSM) หรือ 7 ชั่วโมง (WCDMA)
·  ระยะเวลาการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 40 ชั่วโมง
·  ประมวลผลการทำงานด้วย Apple A4 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz
·  ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 4 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Mac OS)
- รองรับการเปิดใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน (Multi-Tasking)
- ผู้ใช้ iPhone 3G และ 3GS สามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้เป็น iOS4 ได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน เป็นต้นไป ส่วนผู้ใช้ iPhone 2G ไม่สามารถอัพเกรดได้
·  หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB หรือ 32 GB
·  หน่วยความจำสมุดโทรศัพท์ (ไม่จำกัดจำนวน)
·  บันทึกข้อมูลการโทรอย่างละ 100 รายการ (โทรออก, รับสาย, ไม่รับสาย)

คุณสมบัติเกี่ยวกับข้อความ

·  SMS (Short Messaging Service)
·  MMS (Multimedia Messaging Service)
·  Email (POP3, SMTP, IMAP4)
- รองรับการใช้งานระบบ Push Email
·  ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (T9)

คุณสมบัติการเชื่อมต่อ

·  HTML Browser (Safari Web Browser)
- รองรับแบนเนอร์โฆษณาแบบ iAds
·  WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 b/g/n)
·  HSDPA (7.2 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
·  EDGE Class 10 (236.8 kbps)
·  GPRS Class 10 (4+1/3+2 slots : 32 - 48 kbps)
·  Bluetooth เวอร์ชัน 2.1
- รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
·  USB Data Cable (USB เวอร์ชัน 2.0)
·  ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System)
- ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านโปรแกรม Google Maps

- โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
·  ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
·  รองรับการเชื่อมต่อแสดงผลผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ (TV Out)
·  ค้นหาข้อมูลผ่านโปรแกรม Google Search, Yahoo และ Bing
·  รองรับการใช้งาน Youtube
·  โปรแกรม MobileMe สำหรับดึงข้อมูลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อีเมล, รายชื่อผู้ติดต่อ และปฏิทินนัดหมาย มาไว้ในเครื่อง

คุณสมบัติทั่วไป

·  เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones
- รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3
- แสดงรูปภาพขณะมีสายเรียกเข้า (Photo Caller ID)
- ระบบสั่นในตัว
·  นาฬิกาบอกเวลา
·  ตั้งปลุก
·  โปรแกรม Organizer
·  ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
·  เครื่องคิดเลข
·  โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง
·  โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ
- โปรแกรม iMovie
·  โปรแกรมตัดต่อเสียง และวิดีโอ
·  โปรแกรม iBooks
·  เทคโนโลยี Noise Cancellation พร้อมไมโครโฟนสำหรับการสนทนาโดยเฉพาะ ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัดแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
·  สั่งงานด้วยเสียง
·  โทรออกด้วยเสียง
·  Handsfree และ Speakerphone ในตัว

คุณสมบัติอื่นๆ

·  ฝาหลังแบบ Gorilla Glass มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้
·  กรอบล้อมรอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และใช้งานเป็นเสารับสัญญาณในตัว
·  กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
- ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592x1944 Pixels
- เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside Illuminated Sensor
- ไฟแฟลชในตัว (LED Flash)
- ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 5 ระดับ (Digital Zoom)
- ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
- ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)
- ถ่ายภาพวิดีโอ (720p : WXGA : 1280x720 Pixels : 30 fps)
- ไฟให้แสงสว่างสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ (LED Video Light)
- ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย และวิดีโอ
·  กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling บนระบบเครือข่ายแบบ WiFi (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
·  เกมส์ในเครื่อง
- รองรับการควบคุมการเล่นเกมส์ด้วยการเคลื่อนไหว (Motion-Sensitive Gaming)
·  มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ และ ขาว)
·  เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010
·  กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010 (สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อังกฤษ และญี่ปุ่น)
- สั่งจองล่วงหน้าได้ในวันที่ 15 มิถุนายน และรับของได้ในวันที่ 24 มิถุนายน
- ประเทศอื่นๆ อีก 18 ประเทศ สามารถสั่งจองได้ในเดือนกรกฎาคม และอีก 88 ประเทศทั่วโลก สามารถสั่งจองได้ในเดือนกันยายน
·  ราคาเปิดตัว 199$ สำหรับ iPhone 4 ความจุด 16 GB และ 299$ สำหรับ iPhone 4 ความจุ 32 GB


นวัตกรรมใหม่ของ Nokia โทรศัพท์มือถือยืดหยุ่น


วิวัฒนาการด้านนาโนเทคโนโลยี ช่วยให้เกิดการพัฒนารูปแบบใหม่ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีความยืดหยุ่น สามารถยืดหดและโค้งงอได้ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ของ Nokia โทรศัพท์รุ่นดังกล่าวชื่อว่า Morph ได้ถูกนำไปแสดงในนิทรรศการ New Design and Elastic Mind ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแขนงใหม่ (Museum of Modern Art: MoMA) ในนครนิวยอร์ค โดยนิทรรศการดังกล่าวจัดระหว่าง 24 กุมภาพันธ์ ถึง 12 พฤษภาคม 2008
แนวคิดในการประดิษฐ์โทรศัพท์มือถือยืดหดที่มีความยืดหยุ่นได้นี้ เป็นของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ร่วมกับศูนย์วิจัยของ
Nokia ซึ่งเริ่มต้นวิจัยมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2007 การคิดค้น Nokia Morph เป็นการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์ด้านนาโนเทคโนโลยี และศิลปะการออกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในอนาคตMorph เป็นต้นแบบของโทรศัทพ์มือถือในอนาคตที่สามารถยืดหด และดัดไปมาเป็นรูปร่างต่างๆในแนวโค้งได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนรูปร่างของมันได้หลากหลายเพื่อการใช้งานทั้งเป็นโทรศัพท์ แถบรัดข้อมือ นาฬิกาข้อมือ หรือแม้แต่หูฟัง(hand free) วัสดุที่นำมาผลิตใช้หลักการของนาโนเทคโนโลยี ซึ่งต้องเป็นวัสดุที่ยืดหยุ่น โปร่งใสให้เห็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้านใน และทำความสะอาดบริเวณผิวได้ด้วยตัวเอง


<<<วีดีโอ>>>







ภาพจากการดำเนินงาน









สมาชิกในกลุ่ม

1. นาย  จักรกฤช   เซี่ยงโหล   การเงิน   53112804040
2. น.ส. มณฑาทิพย์ เเก้วจินดา การเงิน  53112804055
3. น.ส. จิราพร  ทิพย์ประพันธ์  การเงิน   53112804073
4. นาย ณัฐพล   นามวงค์     การเงิน       53112804103